หรือว่า “จักรวาล” ที่เราอยู่นี้เป็นเพียงแค่ “ของเล่น” ของอารยธรรมที่ล้ำหน้าไปไกลแล้ว

หรือว่า จักรวาลที่เราอยู่นี้เป็นเพียงแค่ ของเล่นของอารยธรรมที่ล้ำหน้าไปไกลแล้ว

มีนักฟิสิกส์ได้กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่โลกของเราเป็นเพียงแค่การจำลองขึ้นมา ซึ่งพวกเขาอ้างว่า อาจจะมีหลักฐาน การพิสูจน์ในเรื่องนี้ ถ้ารู้ว่าจะต้องเริ่มที่ตรงไหน ยกตัวอย่างเช่น กฎฟิสิกส์บางข้อนั้น อาจไม่สมเหตุสมผล หรือเป็นจริงก็ได้
สมมติว่านี่คือปี 2050 ซึ่งเป็นปีที่หุ่นยนต์มีความฉลาดสูง และได้ยึดครองโลก เว้นเสียแต่ว่า คุณไม่มีทางรู้ เพราะว่าคุณอยู่ในโปรแกรมจำลองเสมือนจริง และพรรณนาเอาว่าโลกในปี 2017 นี้เป็นอย่างไร ทุกอย่างที่เรากำลังเห็น และสัมผัสยู่ในขณะนี้นั้น ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ปกครองเหล่าหุ่นยนต์ที่กำลังใช้มนุษย์เป็นของเล่นในเกมส์เสมือนจริง
ในจักรวาล และทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นของปลอมหรือภาพเสมือน สิ่งเหล่านี้ถูกคิดมาจากลัทธิสุดโต่งโดยเหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้อ้างว่ามันมีความเป็นไปได้ ที่โลกของเรานั้นเป็นเพียงแค่โปรแกรมจำลองคอมพิวเตอร์จากเหล่าอารยธรรมที่สูงกว่า
เรื่องนี้อาจจะฟังดูแล้วไร้สาระ แต่ ข้อโต้แย้งในเรื่องภาพจำลองนี่กำลังอยู่ในขั้นตอนที่เหล่านักฟิสิกส์ที่พยายามเสาะหาหลักฐานมาเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้อย่างจริงจัง
Robert Lawrence Kuhn นักเขียน และพิธีกรรายการ “Closer to Truth” ได้เปิดเผยแนวคิดนี้ในเชิงลึกลงใน Space.com ได้กล่าวว่า คำกล่าวอ้างของ Nick Bostrom นักปรัชญาจาก Oxford university  ว่าการเล่นบทบาทสมมติในภาพยนตร์ The Matrix นั้นอาจจะเป็นจริง แต่แทนที่สมองจะถูกสั่งการด้วยการป้อนข้อมูลทางระบบประสาทผ่านเครื่องจำลอง ตัวสมองเองต่างหากที่เป็นส่วนหนึ่งของการจำลอง โดยทุกอย่างถูกควบคุมโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ รวมไปถึงสมองของมนุษย์ จนลงไปถึงระดับเซลล์ประสาท อีกทั้งยังได้ชี้ประเด็นไปในเรื่องของแนวคิดกฎฟิสิกส์ที่อาจจะถูกประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เช่นกัน ผ่านรูปแบบที่ให้ความรู้สึกว่าเหมือนถูกสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติ
            Marvin Minsky ผู้คิดค้นปัญญาประดิษฐ์ ได้บอกกับ Khun ว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างการอยู่ในโลกจริง กับโลกเสมือน เว้นเสียแต่ว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาในโลกเสมือนนั้นมีช่องโหว่ ที่หากเราสามารถค้นพบ หรือหากว่ากฎทางฟิสิกส์บางข้อที่ไม่เป็นไปตามความจริงที่มันควรจะเป็น
          เมื่อหลายปีที่ผ่านมา Silas Beane จาก University of Bonn ยังได้เคยกล่าวเช่นเดียวกับ Minsky ที่ว่ามันมีข้อบ่งชี้ที่เราอาจะกำลังอยู่ในระบบจำลอง
           วิธีเดียวที่เราจะแยกแยะได้นั้น เราจำเป็นต้องสร้างระบบจำลองจักรวาลของเราเองขึ้นมาที่ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักวิจัยกำลังพยายามคิดค้นมาตลอด เขาเชื่อว่าการจำลองฟิสิกส์ในระดับพื้นฐานนี้จะต้องมีความเทียบเท่า มากกว่า หรือน้อยกว่ารูปแบบการทำงานของตัวระบบจักรวาลเอง เช่น ในการจำลองกฎฟิสิกส์ที่จะต้องมีการซ้อนทับลงไปในระดับโครงสร้างตาข่ายสามมิติที่ถือว่ายังเป็นสิ่งที่ล้ำหน้าเกินไปในยุคนั้น
              มีนักวิทยศาสตร์กล่าวว่าระยะห่างโครงสร้างตาข่ายสามมิติมีข้อจำกัดต่อรูปแบบอนุภาคโครงสร้างพลังงาน เพราะไม่มีอะไรที่สามารถอยู่ได้ในโครงสร้างที่เล็กกว่าขนาดของตัวมันเอง นั่นหมายความว่าถ้าจักรวาลของเรานั้นเป็นคอมพิวเตอร์จำลองจริง ๆ มันควรจะต้องมีรอยตัดในสเปกตรัมของอนุภาคพลังงานสูงและพบว่ามีรอยตัดลักษณะดังกล่าวนี้ในพลังงานของรังสีคอสมิก ที่รู้จักกันในชื่อ GZK ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะอนุภาคพลังงานสูงมีปฏิสัมพันธ์กับคลื่นไมโครเวฟหลังจากสูญเสียพลังงานระหว่างเดินทางในระยะทางยาว ซึ่งนักวิจัยได้คำนวณพลังของระยะห่างโครงสร้างตาข่ายที่มีผลต่อคลื่นความถี่ที่รังสีคอสมิกใช้ในการเดินทางไปตามแกนของโครงสร้างตาข่าย
สิ่งเหล่านี้ จะเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ของนักวิจัยในการค้นหาข้อบ่งชี้ที่ว่า สิ่งที่กำลังค้นคว้าอยู่นี้ ไม่ได้ดูเหมือนกับจักรวาลที่เรารู้จัก
ที่มา Dailymail


ความคิดเห็น